http://astore.amazon.com/smindtea-20

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่องเล่ากว่าจะเป็นร้านสมายด์ที (SMIND Tea) ตอน3 ครับ :)


หากโอกาสดีๆ ไม่มาเยือน ท่านก็จงสร้างโอกาสดีด้วยตัวเองเสีย” Smith (อังกฤษ)


ทีนี่ มาดูกันครับว่า การเปิดร้านของผมไม่ได้มีแต่ด้านดีๆหรอกนะ  คนเราก็เหมือนเหรียญมี 2 ด้านเสมอ มีสุขก็มีทุกข์ได้ เคยขายได้ดี ก็อาจขายไม่ได้เลย การลงทุนทำอะไรสักอย่างไม่ใช่จะมีแต่ด้านบวกเสมอ เพราะมันก็มีความเสี่ยงอยู่ด้วยทุกครั้งเช่นกัน โดยมาจากปัจจัยภายนอกภายในที่มีผลทั้งนั้น

 ซึ่งตัวผมก็เจอกับตัวเอง อย่างร้านสมายด์ทีที่ทำอยู่พอเริ่มอยู่ตัวไปสักเดือน สองเดือน พอไปได้สักหกเดือน แล้วผมอาจคิดไม่รอบคอบพอ คิดอยากขยายใหญ่ขึ้น หาทำเลใหม่ ทำร้านใหม่ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไป ผมต้องยอมรับความผิดพลาดนี้ ที่เกิดจากการด่วนคิดเร็วไป บวกกับประมาทในการนำเงินลงทุนและเงินออมมาใช้กับร้านใหม่จนหมด โดยที่ไม่ได้คำนวณเผื่อเหลือเผื่อขาดในอนาคตไว้ ตอนนั้นคิดแต่ว่าต้องขายได้และขายได้มากขึ้นเมื่อย้ายไปที่ใหม่ ที่บริเวณสถานศึกษา มีตลาดเป็นเด็กวัยรุ่น นักศึกษารองรับแน่ๆ

เครื่องชงกาแฟที่ไว้ทำชาชงสด เครื่องแรกของผมเองในชีวิต
แต่ชีวิตไม่เป็นดังฝัน เลยตกจากสวรรค์มาเจอความจริง (อันโหดร้าย 55) จากที่คิดว่าขายได้เยอะแน่ๆ ก็ไม่แน่นอน ตลาดใหม่ ลูกค้ามีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้ดื่มแค่ชาอย่างเดียว มีเพิ่มกาแฟ,นม,ขนม เข้ามา และเจอการปิดเทอม วันหยุดยาว และสารพัดปัญหาการทำโปรโมชั่นที่ต้องเน้นตามใจเด็กๆวัยรุ่น ซึ่งแน่นอน บางอย่างเราก็ปรับปรุงได้ ตามใจลูกค้าได้ แต่เราต้องไม่ลืมที่ต้องกลับไปดูหลัก 4P ที่ต้องให้สมดุลด้วย ยิ่งร้านใหม่ คุณเคยคิดไหม เมื่อขายได้ไม่มากเท่าที่ควร แต่ค่าเช่า ค่าใช้จ่าย เพิ่มเป็นเท่าตัว แค่นี้ก็ลำบากแล้วสำหรับเจ้าของร้านเล็กๆแบบผม (แต่ตัวไม่เล็กนะ พุงมี)

โลโก้ต้นแบบตัวแรก
ดังนั้น ผมในฐานะมีประสบการณ์จริงมาแล้ว จึงอยากมาแชร์สิ่งเหล่านี้ไว้ให้เพื่อนๆเก็บไปคิดดูครับ ว่าการเปิดร้านหรือลงทุนอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่โรยด้วยกลีบดอกไม้หอม แต่ก็มีหนามแหลมๆคอยทำให้เราสะดุ้งได้ด้วย (ที่บอกมาทั้งหมด ไม่ได้จะทำให้กลัว แล้วคิดว่าไม่เอาแล้วนะ) เพียงแต่อยากให้เพื่อนๆนำไอเดียตัวเอง บวกประสบการณ์บอกเล่าของผมนี้ นำเอาไปตกผลึกทางความคิดก่อน ทำอะไรต้องคิดให้รอบด้านด้วยครับ แล้วรับรองความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมในสองมือเรา J

โลโก้ต้นแบบที่ปรับครั้งที่2

จนถึงวันนี้ ผมก็ไม่เคยหยุดเรียนรู้นะ ยอมรับว่าเจ็บ ท้อมาก ที่ต้องหยุดร้านในตอนนี้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ลงมือทำแล้ว สักวันผมจะกลับมาใหม่ ไม่มีใครไม่เคยล้ม ผมยอมรับว่าแพ้ครั้งนี้ แต่ไม่ใช่แพ้ตลอดไป คนเราหากยังยอมรับในตัวเองได้ว่า หนึ่งสมอง  สองมือและเท้าเป็นสิ่งมีค่า ก็ไม่มีอะไรจะมากั้นเราไม่ให้ไม่ประสบความสำเร็จได้....ทุกคนเห็นเหมือนผมไหม หลับตาสิ แสงสีทองรอคุณอยู่ที่ปลายอุโมงค์





1 ความคิดเห็น: