http://astore.amazon.com/smindtea-20

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชงๆชิมๆ ต่อแก้ว By สูตรชามะนาวน้ำผึ้งเย็นสมายด์ที (Lime Iced Tea with Wild Honey) ครับ :)

        

   สำหรับเมนูชามะนาว ก็เป็นอีกเมนูทางเลือกหนึ่งให้สำหรับคนที่ไม่ชอบชาใส่นม หรือผู้ที่ต้องการความสดชื่น ดื่มง่าย ดับกระหาย มีความเปรี้ยวๆหวานๆ ยิ่งสูตรที่ร้านสมายด์ทีทำไว้ได้มีการเพิ่มน้ำผึ้งสดเข้าไปด้วย ทำให้เมนูนี้กลายเป็นเครื่องดื่มชายอดนิยมและเหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยครับ

ที่จริง เมนูชามะนาวนี้ก็เหมือนเป็นการผสมผสาน (เรียกให้เท่ห์แบบดูดีก็คือ ฟิวชั่นดริ้งค์) เพราะมะนาวเป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อผสมกับชา จึงทำให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีกด้วย เพราะตัวของมะนาวเอง จริงๆก็เป็นยาอย่างหนึ่ง มีคุณสมบัติเช่น ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียด และเมื่อคั้นเป็นน้ำมะนาวผสมลงไป ก็จะช่วยรักษาอาการเจ็บคอ แก้ไอ ขับเสมหะ และรักษาโรคลักปิดลักเปิดซึ่งเกิดจากการขาดวิตามินซีได้อีกด้วย (โดยเฉพาะ ทำเป็นชามะนาวร้อน ยิ่งดีครับ)  

โดยผงชาที่ผมใช้ชง ปกติจะเลือกผงชาดำ(ชาอัสสัม)หรือ ชาแดงของไต้หวัน ซึ่งด้วยความหอมของชาที่พอดี ไม่แรงเกินไป จะทำให้ได้รสชาติที่ผสมกับมะนาวแล้วลงตัวพอดี และไม่ถูกมะนาวกลบกลิ่นชาอีกด้วย (ซึ่งผมเคยใช้ชาดำไทยชงแล้ว แต่กลิ่นและรสชาติมันค่อนข้างแรงไปครับ) ที่นี่ก็มาดูวิธีการชงกันเลย ดังนี้


1. เตรียมผงชาอัสสัมหรือชาแดง (Black Tea) ประมาณ 2 ช็อตใส่ในหัวกรุ๊ปของเครื่องชงกาแฟสด
2. หลังอัดก้านเข้าเครื่องชงแล้ว กดให้เครื่องทำงาน โดยรอน้ำชากลั่นออกมาที่ระดับ 175ml.
3. เติมน้ำตาลทราย (อาจผสมทรายแดงด้วยได้) ปริมาณ 4 ช้อนชาครึ่ง (พูนๆ)
4. บีบน้ำมะนาวคั้นสดใช้ 1 ลูกเต็มๆ (โดยแยกเม็ดออกให้หมด) แล้วผสมลงในน้ำชา
5. คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง เทใส่แก้วขนาด 22 oz. + โรยหน้าด้วยน้ำผึ้งสด + เสิร์ฟพร้อมป็อกกี้

เพิ่มเติม: ถ้าคนไหนไม่ชอบน้ำผึ้งสด เราก็ปรับได้ ไม่ต้องใส่โรยหน้าเครื่องดื่ม แต่ให้เพิ่มปริมาณชาไปที่ประมาณ 200ml. แล้วเติมน้ำตาลเป็น 5 ช้อนชา (พูนๆ) แทนครับ :)



“The shortest answer is doing ….คำตอบที่ง่ายที่สุด คือ การลงมือทำ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นั่งเล่นชิมชา ชิลๆกับร้าน KCG@สุขุมวิท101 ครับ:)


และแล้วก็มาตามสัญญากับอีกหนึ่งเรื่องราว กับการพาเพื่อนๆไปเที่ยวชมกันกับร้านอร่อยๆ นั่งเล่นสบายๆ (รู้สึกตื่นเต้นมากๆ พิมพ์ไปเต้นไปด้วย 55) เพราะเป็นครั้งแรกที่มาแนะนำร้านต่างๆให้ทุกคนหรือใครที่สนใจมีโอกาสไปลองชิมกันดู ซึ่งผมคงต้องขอออกตัวก่อนแล้วกันนะครับ ว่ารสชาติหรือเทสต่างๆ ที่ได้ผ่านมือผ่านปากผมแล้ว (แบบว่าตะลุยกินไปทั่ว 55) ก็อาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคนได้หมด แต่ว่าเอานะ ผมเชื่อว่า ยังไงเสีย ด้วยการที่ทำร้านชามาเอง ชงเอง ชิมเองมาเยอะ ก็ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานแน่นอน

โดยร้านแรกที่อยากนำเสนอ ชื่อร้าน KCG อยู่ตรงถนนใหญ่เลย ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี (สุขุมวิท101) สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้ามาง่ายสุด ให้ดูตามรูปเลยครับ

เดินลงมาทางด้านซอยสุขุมวิท101 ก็เจอเลยครับ

บรรยากาศร้าน (ร้านกำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่ไป มีขายเครื่องดื่มต่างๆ และขนมกับเค้กเบเกอรี่ด้วย)




ที่ร้าน KCG จะมีเครื่องดื่ม ร้อน เย็น ปั่น หมด (โดยราคาเฉลี่ยก็อยู่ที่ 40-60 บาท/แก้ว ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป)
กาแฟสด รสชาติกลมกล่อมใช้ได้  

มาถึงพระเอกของเรา ชาเขียวนมแสนอร่อย



เอาเป็นว่า ใครสนใจก็เชิญมาลองชิมกันได้เลย อ้อ ร้านนี้เปิดวันจันทร์-ศุกร์ (6.30-19.30) นะครับ หวังว่าคงถูกใจกันไม่มากก็น้อย (สุดท้ายขอบอกก่อนว่า ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลยกับร้านนี้นะครับ มีอย่างเดียวคือ น้ำหนักขึ้นอีกแล้ว J


  สรุป Rate ให้ร้านกันครับ ขอมอบใบชาแห่งความประทับใจไป 3 ใบชา 
               (เต็ม Rate ของผมที่ 5 ใบชาครับ)


“The impossible is often the untried….เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ มักเป็นเพราะไม่เคยลองพยายาม

ชงๆชิมๆ ต่อแก้ว By สูตรชาเขียวนมสดเย็นสมายด์ที (Iced Green Tea) ครับ :)


อีกเมนูที่บ้านเราฮิตกันทั้วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าจะชงสด บรรจุขวด ใส่นมหรือไม่ใส่นม แถมยังมีเติมไข่มุกได้อีกด้วย นั่นคือ เมนูชาเขียว ด้วยความหอมและกลิ่นเฉพาะตัว จึงทำให้ถูกคอคนไทยได้ไม่ยาก ยิ่งอากาศร้อนๆ ดื่มแล้วสดชื่นยิ่งนัก

โดยสูตรของผมเอง ก็จะเสนอตามที่ร้านสมายด์ทีได้ทำไว้แบบ ชาเขียวนมสด ซึ่งตัวผงชาเขียวที่ใช้ทำกีบชานม ผมแนะนำว่าเอาแบบใกล้ตัวไม่ต้องหายาก ก็มี ผงชาเชียวของชา ที่มียี่ห้อแบบยกนิ้วโป้งให้ (เอาว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเค้า คิดว่าทุกคนน่าจะรู้ครับ) ส่วนอีกยี่ห้อที่ก็หอมนุ่มเช่นกัน ก็เป็นยี่ห้อมีชื่อจังหวัดจากทางภาคใต้ เป็นเขาอะไรสักอย่างนึง (เช่นกันครับ ลองหาดูไม่ยาก) โดย 2 ตัวนี้เมื่อเอามาชงแล้วก็จะ หอม มัน อร่อย เข้มข้นแน่นอนครับ ที่นี่ก็มาดูขั้นตอนกันเลย ดังนี้

1. เตรียมผงชาเขียวสำหรับชานม (Green Tea) แล้วใส่ประมาณ 2 ช็อตในหัวกรุ๊ปของเครื่องชงกาแฟสด
2. หลังอัดก้านเข้าเครื่องชงแล้ว กดให้เครื่องทำงาน โดยรอน้ำชากลั่นออกมาที่ระดับ 125ml.
3. เติมน้ำตาลทราย (อาจผสมทรายแดงด้วยได้) ปริมาณ 2 ช้อนชา(พูนๆ)
4. เติมนมข้น (ยี่ห้ออะไรก็ได้) ปริมาณ 40ml. แล้วเทคนผสมในชา
5. เติมนมสดที่ต้มแล้ว (ใช้นมวัว) ปริมาณ 50ml. เทผสมลงในชา
6. แล้วคนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง เทใส่แก้วขนาด 22 oz. + ฟองนมโรยหน้า + เสิร์ฟพร้อมป็อกกี้


เพิ่มเติม: กรณีใช้เป็นผงชามัจฉะ (ญี่ปุ่น) ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ แค่เปลี่ยนมาใช้ ผงชามัจฉะ โดยเติมประมาณ 2 ช้อนชา แล้วใส่น้ำร้อนให้ได้น้ำชาออกมาที่ 125-150ml. ครับผม





“Genius only means hard-working all 0ne’s life….อัจฉริยะ หมายถึงความขยันทั้งชีวิตเท่านั้น

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชงๆชิมๆ ต่อแก้ว By สูตรชานมสดเย็นสมายด์ที (Iced Thai Milk Tea) ครับ :)


“Wisdom in the mind is better than money in the hand….มีความรู้อยู่ในสมอง ดีกว่ามีเงินอยู่ในมือ

ก็อย่างที่ผมบอกไว้ ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับความคิดสร้างสรรค์และความรู้ที่เรามี ที่จะนำพาให้เราประสบความสำเร็จได้ทุกอย่าง ยิ่งบวกกับพลังแห่งความตั้งใจและความมั่นใจ ก็จะไม่มีอะไรที่จะหยุดคุณได้แน่นอน 

มาถึงอีกเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมในบ้านเราไม่แพ้กาแฟสดต่างๆ ก็คือ ชานมเย็น ด้วยความหอมมันและรสชาติเฉพาะตัว ทำให้ชาไทยใส่นมจึงเป็นที่นิยมและดังไปไกลทั่วโลก โดยสูตรของร้านสมายด์ทีก็จะใส่ใจทุกขั้นตอน เพิ่มความหอมมันด้วยนมสดตามสไตล์ไทยนิยม เรามาลองทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เตรียมผงชาดำไทย (Thai Black Tea) แล้วใส่ประมาณ 2 ช็อตในหัวกรุ๊ปของเครื่องชงกาแฟสด
2. หลังอัดก้านเข้าเครื่องชงแล้ว กดให้เครื่องทำงาน โดยรอน้ำชากลั่นออกมาที่ระดับ 125ml.
3. เติมน้ำตาลทราย (อาจผสมทรายแดงด้วยได้) ปริมาณ 2 ช้อนชา(พูนๆ)
4. เติมนมข้น (ยี่ห้ออะไรก็ได้) ปริมาณ 40ml. แล้วเทคนผสมในชา
5. เติมนมสดที่ต้มแล้ว (ใช้นมวัว) ปริมาณ 50ml. เทผสมลงในชา
6. แล้วคนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง เทใส่แก้วขนาด 22 oz. + ฟองนมโรยหน้า + เสิร์ฟพร้อมป็อกกี้

แค่นี้เราก็ได้เครื่องดื่มชานมสดเย็นสไตล์ร้านสมายด์ที ชงสดต่อแก้วกันไปเลย J

ชงๆชิมๆ ต่อแก้ว By สูตรชาดำเย็นสมายด์ที (Iced Thai Tea) ครับ :)


ความเฉียบแหลมเป็นสิ่งงดงาม เพราะเกิดจากความสร้างสรรค์....ขณะที่ความสร้างสรรค์นั้นก็งดงาม เพราะเกิดจากสติปัญญาโดย Abdullah Bin Al-Hussein (ปากีสถาน)

ในการเริ่มต้นของทุกอย่างบนโลกนี้ สิ่งที่คนเราต้องมีก็คือ ความคิดสร้างสรรค์ หากเราไม่รู้จักคิด ก็คงไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยให้เรามีความสุขสบายในชีวิตปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะบุคคลที่ทรงอิทธิพลในโลกยุคใหม่นี้ แม้เค้าจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ชื่อเสียงและผลงานระดับโลกของเค้าก็ยังคงอยู่ เค้าคือแรงบันดาลใจให้ใครต่อใคร ให้โลกใบนี้ยังคงสรรสร้างสิ่งใหม่ๆต่อไปได้ ขอบคุณครับ คุณสตีฟ จ็อบ (Mr.Apple) 

ที่ผมเกริ่นมานี้ ไม่ได้จะอวดอ้างว่าผมโคตรเก่ง ระดับอภิมหากาฬแบบคุณสตีฟ จ็อบ แต่ผมกำลังจะบอกว่า ขนาดผมซึ่งเป็นคนตัวเล็กๆไม่มีใครสนใจ และงานที่ผมทำก็แค่การชงชาธรรมดาๆ แต่ทำไมผมภูมิใจนัก เอางี้ ถ้าผมยกตัวอย่างให้อ่านดู (เพราะยกตัวอย่างให้ฟังคงไม่ได้) เช่น เมื่อคุณเด็กๆ แล้วได้รับคำชมจากอาจารย์ และยิ่งถ้าคุณสอบได้คะแนนเต็ม กลับไปบ้าน แม่คุณชมไม่ขาดปาด ทำแต่ของอร่อยให้ทาน คุณคิดว่า ตัวคุณจะอดที่ไม่อมยิ้มหรือหัวเราะได้ไหม ? ผมว่าคงยากนะ (เพราะคุณก็เป็นคน ไม่ใช่ก้อนหิน) แล้วคิดดูสิ ว่าคุณปลื้มใจในตัวเองแค่ไหน แล้วจะมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากสื่อให้ทุกคนเห็น คือ ไม่ว่าของนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนในสายตาใครๆ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณคิดได้เอง สร้างสรรค์เอง ไม่ได้ลอกใคร แล้วมันจะเท่ห์สักแค่ไหน ลองคิดดู แถมยิ่งคุณพิถีพิถันตั้งใจที่จะทำสุดฝีมือเข้าไปอีก เพื่อให้คนทุกคนได้เห็นได้รับชิ้นงานนั้น เท่านี้เพียงแค่ชาชงสดแก้วเดียวของผม มันก็มีค่ายิ่งกว่า เพชร พลอย เงินทองอีกนะ เพราะคำชมที่ลูกค้าให้กลับมาแค่ว่า อร่อย, จะกลับมาทานอีก, กลิ่นหอมจัง เป็นต้น มันก็แสนจะน่าภูมิใจที่สุดแล้วครับ J

ทีนี่ มาเรื่องสูตรของชาดำเย็นชงสดของร้านสมายด์ทีกันครับ (อะแฮ่ม เปิดเผยที่นี่ที่แรกเลยนะครับ ไม่มีปิดบังหรือลิขสิทธิ์) ผมก็แค่อยากแบ่งปันและก็แชร์สิ่งที่ผมพอมีให้ทุกคนบ้าง มันคงมีความสุขน่าดู ถ้ามีแค่ใครสักคนทำตามและชอบในสิ่งที่ผมชอบเหมือนกัน งั้นเรามาดูขั้นตอนการทำ ดังนี้

1. เตรียมผงชาดำ (Black Tea) แล้วใส่ประมาณ 2 ช็อตในหัวกรุ๊ปของเครื่องชงกาแฟสด
2. หลังอัดก้านเข้าเครื่องชงแล้ว กดให้เครื่องทำงาน โดยรอน้ำชากลั่นออกมาที่ระดับ 175ml.
3. เติมน้ำตาลทราย (อาจผสมทรายแดงด้วยได้) ปริมาณ 4 ช้อนชา(พูนๆ)
4. แล้วคนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง เทใส่แก้วขนาด 22 oz. + เสิร์ฟพร้อมป็อกกี้ 2 แท่ง
แค่นี้เราก็ได้เครื่องดื่มชาดำเย็นของร้านสมายด์ทีไปดื่มกันเย็นๆชิลๆ ดับร้อนกันเลย J

เรื่องเล่ากว่าจะเป็นร้านสมายด์ที (SMIND Tea) ตอน3 ครับ :)


หากโอกาสดีๆ ไม่มาเยือน ท่านก็จงสร้างโอกาสดีด้วยตัวเองเสีย” Smith (อังกฤษ)


ทีนี่ มาดูกันครับว่า การเปิดร้านของผมไม่ได้มีแต่ด้านดีๆหรอกนะ  คนเราก็เหมือนเหรียญมี 2 ด้านเสมอ มีสุขก็มีทุกข์ได้ เคยขายได้ดี ก็อาจขายไม่ได้เลย การลงทุนทำอะไรสักอย่างไม่ใช่จะมีแต่ด้านบวกเสมอ เพราะมันก็มีความเสี่ยงอยู่ด้วยทุกครั้งเช่นกัน โดยมาจากปัจจัยภายนอกภายในที่มีผลทั้งนั้น

 ซึ่งตัวผมก็เจอกับตัวเอง อย่างร้านสมายด์ทีที่ทำอยู่พอเริ่มอยู่ตัวไปสักเดือน สองเดือน พอไปได้สักหกเดือน แล้วผมอาจคิดไม่รอบคอบพอ คิดอยากขยายใหญ่ขึ้น หาทำเลใหม่ ทำร้านใหม่ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไป ผมต้องยอมรับความผิดพลาดนี้ ที่เกิดจากการด่วนคิดเร็วไป บวกกับประมาทในการนำเงินลงทุนและเงินออมมาใช้กับร้านใหม่จนหมด โดยที่ไม่ได้คำนวณเผื่อเหลือเผื่อขาดในอนาคตไว้ ตอนนั้นคิดแต่ว่าต้องขายได้และขายได้มากขึ้นเมื่อย้ายไปที่ใหม่ ที่บริเวณสถานศึกษา มีตลาดเป็นเด็กวัยรุ่น นักศึกษารองรับแน่ๆ

เครื่องชงกาแฟที่ไว้ทำชาชงสด เครื่องแรกของผมเองในชีวิต
แต่ชีวิตไม่เป็นดังฝัน เลยตกจากสวรรค์มาเจอความจริง (อันโหดร้าย 55) จากที่คิดว่าขายได้เยอะแน่ๆ ก็ไม่แน่นอน ตลาดใหม่ ลูกค้ามีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้ดื่มแค่ชาอย่างเดียว มีเพิ่มกาแฟ,นม,ขนม เข้ามา และเจอการปิดเทอม วันหยุดยาว และสารพัดปัญหาการทำโปรโมชั่นที่ต้องเน้นตามใจเด็กๆวัยรุ่น ซึ่งแน่นอน บางอย่างเราก็ปรับปรุงได้ ตามใจลูกค้าได้ แต่เราต้องไม่ลืมที่ต้องกลับไปดูหลัก 4P ที่ต้องให้สมดุลด้วย ยิ่งร้านใหม่ คุณเคยคิดไหม เมื่อขายได้ไม่มากเท่าที่ควร แต่ค่าเช่า ค่าใช้จ่าย เพิ่มเป็นเท่าตัว แค่นี้ก็ลำบากแล้วสำหรับเจ้าของร้านเล็กๆแบบผม (แต่ตัวไม่เล็กนะ พุงมี)

โลโก้ต้นแบบตัวแรก
ดังนั้น ผมในฐานะมีประสบการณ์จริงมาแล้ว จึงอยากมาแชร์สิ่งเหล่านี้ไว้ให้เพื่อนๆเก็บไปคิดดูครับ ว่าการเปิดร้านหรือลงทุนอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่โรยด้วยกลีบดอกไม้หอม แต่ก็มีหนามแหลมๆคอยทำให้เราสะดุ้งได้ด้วย (ที่บอกมาทั้งหมด ไม่ได้จะทำให้กลัว แล้วคิดว่าไม่เอาแล้วนะ) เพียงแต่อยากให้เพื่อนๆนำไอเดียตัวเอง บวกประสบการณ์บอกเล่าของผมนี้ นำเอาไปตกผลึกทางความคิดก่อน ทำอะไรต้องคิดให้รอบด้านด้วยครับ แล้วรับรองความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมในสองมือเรา J

โลโก้ต้นแบบที่ปรับครั้งที่2

จนถึงวันนี้ ผมก็ไม่เคยหยุดเรียนรู้นะ ยอมรับว่าเจ็บ ท้อมาก ที่ต้องหยุดร้านในตอนนี้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ลงมือทำแล้ว สักวันผมจะกลับมาใหม่ ไม่มีใครไม่เคยล้ม ผมยอมรับว่าแพ้ครั้งนี้ แต่ไม่ใช่แพ้ตลอดไป คนเราหากยังยอมรับในตัวเองได้ว่า หนึ่งสมอง  สองมือและเท้าเป็นสิ่งมีค่า ก็ไม่มีอะไรจะมากั้นเราไม่ให้ไม่ประสบความสำเร็จได้....ทุกคนเห็นเหมือนผมไหม หลับตาสิ แสงสีทองรอคุณอยู่ที่ปลายอุโมงค์





เรื่องเล่ากว่าจะเป็นร้านสมายด์ที (SMIND Tea) ตอน2 ครับ :)

           โดยการเปิดร้านของตัวเองครั้งแรก ผมจะเน้นเองทุกจุด ยิ่งเราเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีลูกจ้าง ก็ต้องลงไปทำเองหมด ตั้งแต่ เปิดร้าน ทำความสะอาด จัดของ เตรียมเงิน ลงบัญชี ปิดร้าน ซื้อของ เรียกได้ว่า ไม่มีเวลาให้คุณผิดพลาดมากนัก เพราะฉะนั้น เมื่อคุณเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเอง ผมแนะนำว่าคุณควรต้องรู้ทุกอย่าง ไม่งั้นคงไม่มีคำว่า “ลงทุนลงแรง” ยิ่งเป็นเงินที่เก็บมาด้วยตัวเราเอง เราจึงควรเห็นคุณค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไปด้วย (ถึงไม่ทำเอง ก็ต้องรู้ทุกอย่างไว้ เพื่อจะได้แนะนำและตรวจสอบพนักงานได้)





            หลังจากผมเปิดร้านไปสักอาทิตย์นึงและนานวันเข้า ลูกค้าและประสบการณ์จะเป็นบททดสอบและตัวสอนเราเองว่า ข้อผิดพลาดหรือการปรับปรุงและพัฒนาร้านของเราควรเป็นอย่างไร และจะก้าวต่อไปในทิศทางไหน
           
หลายๆครั้งพอเราเปิดร้านไปแล้ว อาจมีหลายๆเสียงจากคนรู้จักเรา และผู้หวังดีมากมายเสนอไอเดียเต็มไปหมด แต่ผมอยากจะบอกคือ ขอให้เราตั้งมั่นในความคิดเราเป็นหลักอันดับหนึ่ง ถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ก็ถือว่าได้แล้ว และทำดีที่สุดแล้วด้วย ไม่งั้น ถ้าคุณโลเลไม่มั่นใจ ไม่มีความเป็นผู้นำ แสดงความเป็นเจ้าของออกมา แล้วคุณจะนำพาร้านให้อยู่รอดตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร จริงไหมครับ J
           
และที่สำคัญสุดของการเปิดร้าน ค้าขายและบริการ คือ ความจริงใจ ซื่อสัตย์ และเป็นกันเองกับลูกค้า ถ้าเราขายของโดยหวังแต่กำไร หรือแข่งขันกันที่ราคาอย่างเดียว คงเป็นการยากที่คุณจะอยู่บนเส้นทางนี้ได้อย่างยาวนาน คุณต้องรู้จักพอเพียง ขายของไม่ได้ต้องกำไรแต่ตัวเงิน แต่ขอให้คุณได้กำไรทางใจด้วย เมื่อคุณขายของโดยการรู้จักจะให้ก่อน แล้วสุดท้ายคุณก็จะได้การรับอย่างเป็นสุขเช่นกัน

เพิ่มเติม: ทุกท่านยังสามารถเข้าไปชมรูป, บรรยากาศเก่าๆ, การทำร้าน, โปรโมชั่นต่างๆของร้านสมายด์ทีเพิ่มเติมได้ที่ =>  https://www.facebook.com/Smindtea  อีกด้วยครับ

กับร้านใหม่ที่ย้ายมาเปิดเมื่อ พ.ย.55 (เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้ง)


“Where there is a will, there is a way….ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น